วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

โครงการอุทยานเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน จังหวัดราชบุรี

ความเป็นมา
                ในปัจจุบันทรัพยากรป่าไม้ได้ถูกบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าเป็นจำนวนมาก เกิดการเปลี่ยนแปลงของ สภาพสิ่งแวดล้อม และความสมดุลย์ของธรรมชาติส่งผลกระทบต่อมวลมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อมพันธุ์ ไม้และสัตว์ ป่าบางชนิดเริ่มหายากหรือใกล้สูญพันธุ์แหล่งต้นน้ำลำธารด้อยคุณภาพราษฎรที่อยู่อาศัยในพื้นที่ ราบขาดแคลนน้ำอุปโภคไม่สามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรม

วัตถุประสงค์
                1.เพื่อจัดสร้างเป็นอุทยานพิเศษเฉลิมฉลองแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเจริญพรรษา 5 รอบ
                2. เพื่อป้องกันทรัพยากรธรรมชาติด้านป่าไม้และสัตว์ป่า รวมทั้งแหล่งต้นน้ำลำธารในพื้นที่ป่า 215,996 ไร่
                3. เพื่อเป็นแหล่งศึกษาวิจัย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการนันทนาการของประชาชนในพื้นที่ และบริเวณใกล้เคียง
                4. เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าในบริเวณที่ถูกบุกรุก และบำรุงป่าธรรมชาติเสื่อมโทรมให้กลับฟื้นคืนสภาพ เดิม
                5. เพื่อให้ราษฎรในท้องถิ่นมีรายได้จากการรับจ้างของโครงการ ไม่อพยพหรือบุกรุกป่าสงวนอีก ต่อไปพร้อมทั้งพัฒนา
อาชีพ ของราษฎรที่ร่วมโครงการให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น 
ที่ตั้งโครงการ         บริเวณพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชีท้องที่ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี
หน่วยที่รับผิดชอบโครงการ สำนักงานป่าไม้จังหวัดราชบุรี

ระยะเวลาดำเนินการ
                ระยะที่ 1 เริ่มตั้งแต่ปี 2536 - 2540 รวม 5 ปี
                ระยะที่ 2 เริ่มตั้งแต่ปี 2541 - 2545 รวม 5 ปี

พื้นที่โครงการ ประมาณ 215,996 ไร่
 โครงการศูนย์ศึกษาพันธุ์ไม้ป่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ จังหวัดราชบุรี

ความเป็นมา
                ในปัจจุบันทรัพยากรป่าไม้ได้ถูกบุกรุกทำลายลงเป็นจำนวนมาก ทำให้ความสมดุลย์ทางธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนแปลงไปซึ่งส่งผลกระทบต่อพันธุ์ไม้ที่มีค่าบางชนิดที่เริ่มจะหายากและใกล้จะสูญพันธุ์
ไปอนุชนรุ่นหลังแทบจะไม่รู้จักหรือพบเห็น ความคิดริเริ่มรวบรวมชนิดพันธุ์ไม้ท้องถิ่นและพันธุ์ไม้ที่มีค่านำมา ปลูกเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์จะก่อให้เกิดผล ประโยชน์แก่ ประเทศชาติหลายประการทั้งทางตรงและทางอ้อม อันไม่สามารถประเมินมูลค่าได้โดยการจัดสร้างสวนรวมพันธุ์ไม้ ป่าเฉลิมพระเกียรติ นับเป็นโครงการหนึ่งที่มี คุณค่าเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของหน่วยงานภาครัฐและประชาชนจัดสร้างขึ้น เพื่อถวายแด่สมเด็จพระบรม ราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสที่จะทรงมีพระชนมพรรษาครบ 60 ปี ในพุทธศักราช 2535 นี้
วัตถุประสงค์
                1. เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ท้องถิ่นดั้งเดิม และมีคุณค่าทางเศรษฐกิจ รวมทั้งพันธุ์ไม้ หายาก
                2. เพื่อดำรงรักษาสภาพป่าธรรมชาติในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติสำหรับเป็นแหล่งพันธุกรรมไม้ป่า
                     และเป็นแหล่งป้องกันสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของประเทศไทยในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง
                3. เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าที่ไม่เหมาะสมกับเกษตรกรรม ซึ่งมีสภาพเสื่อมโทรมให้กลับฟื้นคืนสภาพสมบูรณ์ดังเดิม
                4. เพื่อป้องกันแหล่งสำหรับศึกษาวิจัย และค้นคว้าทางด้านวิชาการป่าไม้
                5. เพื่อจัดเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดราชบุรี
                6. เพื่อทำให้ราษฎรในพื้นที่โครงการมีรายได้จากการรับจ้างปลูกป่า เพื่อเป็นรายได้เสริมในครอบครัว

ที่ตั้งโครงการ         ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

หน่วยที่รับผิดชอบโครงการ สำนักวิชาการ (ส่วนวนวัฒนวิจัย)

ระยะเวลาดำเนินการ
                ระยะที่ 1 เริ่มตั้งแต่ปี 2536 - 2540 รวม 5 ปี
                ระยะที่ 2 เริ่มตั้งแต่ปี 2541 - 2545 รวม 5 ปี่

พื้นที่โครงการ ประมาณ 3,000 ไร่
โครงการเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชดำรัสเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2536 ว่า
“… ปัญหาเรื่องภัยแล้งนี้จะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ และหมู่นี้ก็พูดกันอย่างเสียขวัญเสียว่าอีกหน่อยต้องปันส่วนน้ำหรือต้องตัดน้ำประปา อันนี้สำหรับกรุงเทพฯ ดังนั้น ต้องหาแนวทางแก้ไขซึ่งปัญหานี้ต้องวางแผนมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ถ้าหากว่าได้ปฏิบัติในวันนี้ เราก็ไม่ต้องพูดถึงการขาดแคลนน้ำโครงการโดยเฉพาะนั้นก็มี และโครงการนั้นได้ยืนยันมาเมื่อเดือนกว่าแล้วที่นราธิวาส ได้วางโครงการและแม้เป็นโครงการที่ไม่ได้แก้ปีนี้ หรือปีหน้า แต่ถ้าทำอย่างไรดีประมาณ 5 หรือ 6 ปี ปัญหาน้ำขาดแคลนในกรุงเทพฯ จะหมดไปโดยสิ้นเชิง อาจจะนึกว่า 5-6 ปี นั้นนาน ความจริงไม่นานและระหว่างนี้เราก็พยายามแก้ไขเฉพาะหน้าไปเรื่อย แต่ถ้ามีความหวังว่า 5-6 ปี ปัญหานี้คงหมดไปก็คงมีกำลังใจที่จะฟันฝ่าชีวิตต่อไป
ที่ว่า 5-6 ปีนี้ ความจริงได้เริ่มโครงการนี้มากกว่า 5-6 ปี โครงการที่คิดจะทำนี้บอกได้ ไม่กล้าพูดมาหลายปีแล้วเพราะเดี๋ยวจะมีการคัดค้านจากผู้เชี่ยวชาญจากผู้ที่ต่อต้านการทำโครงการ แต่โครงการนี้เป็นโครงการที่อยู่ในวิสัยที่ทำได้ แม้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อย แต่ถ้าดำเนินการไปเดี๋ยวนี้อีก 5-6 ปี ข้างหน้าเราก็สบาย แต่ถ้าไม่ทำในอีก 5-6 ปีข้างหน้าราคาค่าสร้างค่าดำเนินการก็จะขึ้นไป 2 เท่า 3 เท่า ลงท้ายก็จะต้องประวิงต่อไป และเมื่อประวิงต่อไปไม่ได้ทำ เราก็ต้องอดน้ำแน่จะกลายเป็นทะเลทราย แล้วเราก็จะอพยพไปที่ไหนไม่ได้ โครงการนี้คือสร้างอ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง แห่งหนึ่งคือแม่น้ำป่าสัก อีกแห่งคือ แม่น้ำนครนายก สองแห่งรวมกันจะเก็บกักน้ำเหมาะสมพอเพียงสำหรับการบริโภค การใช้ในเขตกรุงเทพฯ และเขตใกล้เคียงที่ราบลุ่มของประเทศไทยนี้ สำหรับการใช้น้ำนั้นต้องทราบว่าแต่ละคนใช้อยู่อย่างสบายพอสมควร โดยเฉลี่ยวันหนึ่งใช้คนละ 200 ลิตร ถ้าคำนวณดูว่าวันละ 200 ลิตรนี้ 5 คน ก็ใช้ 1 , 000 ลิตร คือหนึ่งลูกบาศก์เมตรต่อวัน ถ้าปีหนึ่งคูณ 365 ก็หมายความว่า 5 คนใช้ในหนึ่งปี 365 ลูกบาศก์เมตร ในกรุงเทพฯ และในบริเวณใกล้เคียงนี้เรานับเอาคร่าวๆ ว่ามี 10 ล้านคน 10 ล้านคนก็คูณเข้าไปก็เป็น 730 ล้านลูกบาศก์เมตร ฉะนั้นเราเก็บกัก 730 ล้านลูกบาศก์เมตรในเขื่อนเราก็สามารถที่จะบริการคนในละแวกนี้ คนในภาคกลางใกล้กรุงเทพฯ นี้ได้ตลอดไป แล้วก็ไม่มีความขาดแคลน เขื่อนป่าสักที่ตอนแรกวางแผนให้จุได้ 1 , 350 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่แก้ไปแก้มาก็เหลือ 750 ล้านกว่าๆ ตามตัวเลขที่ให้ไว้นี้แม้เขื่อนป่าสักเขื่อนเดียวก็พอสำหรับการบริโภคแน่นอน ไม่แห้ง ถ้าเติมอีกโครงการที่นครนายกจะได้อีก 240 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็เกินพอ... ”
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี และตำบลพราน อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี พื้นที่ของโครงการมีทั้งสิ้น 105 , 300 ไร่ ซึ่งมีรายละเอียดังนี้
•  จังหวัดลพบุรี มีทั้งสิ้น 96 , 658 ไร่ ครอบคลุม 3 อำเภอได้แก่ อำเภอพัฒนานิคม อำเภอท่าหลวง และอำเภอชัยบาดาล
•  จัหวัดสระบุรี มีทั้งสิ้น 8 , 642 ไร่ คือ อำเภอวังม่วง
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นเขื่อนดินชนิดมีแกนดินเหนียวยาว 4 , 860 เมตร สูง 31.50 เมตร ระดับน้ำกักเก็บสูงสุด +43.00 ม.รทก. เก็บน้ำได้ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร
งบประมาณการดำเนินงานรวมทั้งสิ้น 19,230.7900 ล้านบาท
ผลกระทบจากการสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ สามารถแยกออกได้ดังนี้
ทางด้านประชากร ต้องมีประชากรจาก 2 จังหวัดรวม 4 อำเภอ คือ จังหวัดลพบุรีได้แก่ อำเภอพัฒนานิคม อำเภอท่าหลวง และอำเภอชัยบาดาล จังหวัดสระบุรี ได้แก่ อำเภอม่วง
ทางด้านสิ่งปลูกสร้างสารธารณะ มีถนนถูกน้ำท่วม 2 สาย คือ อำเภอชัยบาดาล-อำเภอสนธิ และอำเภอชัยบาดาล – อำเภอด่านขุนทด ส่วนเส้นทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างสถานีแก่งเสือเต้น-สถานีสุรนารายณ์ และ สายแก่งคอย-บัวใหญ่ นอกจากนี้ยังมีโรงเรียน วัด ส่วนราชการ และธุรกิจเอกชน
ทางด้านสิ่งแวดล้อม มีแหล่งโบราณคดี 33 แห่ง และวัฒนธรรมชุมชนไทยเบิ้ง รวมทั้งพื้นที่ป่าไม้แต่เป็นไม้ที่ไม่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ
จากผลกระทบจากการสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หน่วยงานราชการและผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกันให้ความร่วมมือให้ความช่วยเหลือราษฏรในเขต 2 จังหวัด ทั้งทางด้านสาธารณูปโภค ด้านไฟฟ้า ถนน น้ำประปา ตลอดจนได้สร้างวัด โรงเรียน และสถานีอนามัย สถานีตำรวจ ทดแทนของเดิมให้กับพื้นที่ชุมชนใหม่ พร้อมทั้งจัดการส่งเสริมพัฒนาอาชีพ ทั้งการเกษตร การประมง การปศุสัตว์ และอุตสาหกรรมในครัวเรือน เช่น สอนการแปรรูปอาหารและการถนอมอาหาร การทำดอกไม้จันทน์และดอกไม้ประดิษฐ์จากเปลือกข้าวโพด และการทอผ้าด้วยกี่กระตุก
ประโยชน์จากการสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
•  เป็นแหล่งสำหรับอุปโภค บริโภคของประชาชนในเขตลพบุรีและสระบุรี
•  เป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุตสาหกรรมในเขตลพบุรีและสระบุรี
•  เป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ชลประทานที่จะเกิดขึ้นใหม่ในเขตลพบุรีและสระบุรี
•  เป็นแหล่งน้ำเสริมสำหรับพื้นที่โครงการชลประทานเดิม
•  เป็นแหล่งประมงน้ำจืดขนาดใหญ่และแหล่งเพาะพันธ์ปลา
•  ช่วยการคมนาคมทางน้ำในแม่น้ำป่าสักตอนล่าง และการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย
•  ทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดลพบุรีและจังหวัดสระบุรีขยายตัวมากขึ้น
•  ช่วยป้องกันอุทกภัยในเขตจังหวัดลพบุรีและจังหวัดสระบุรีรวมทั้งในพื้นที่ตอนล่างของแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
•  เป็นแหล่งน้ำเสริมสำหรับอุปโภคบริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร
•  เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สวัสดีเพื่อนใหม่เป็นไงบ้าง
ถ้าเพื่อนว่าง....โปรดแวะมาหากันหน่อย
ปิดเทอมนาน...นานมากเราเฝ้าคอย
เปิดเทอมค่อยสดชื่น..ระรื่นเริง
ด้วยความคิดฮอต

จากผู้พิมพ์